|
รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ |
| |
|
เมื่อเอ่ยถึงจักรยาน พาหนะสองล้อที่พาเราไปได้แทบทุกหนแห่งโดยไม่สิ้นเปลืองพลังงานอื่นใด เว้นแต่พลังงานจากน่องของผู้ปั่น ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายท่านเลือกใช้จักรยานเป็นพาหนะคู่ใจในการขับไปส่งลูกที่โรงเรียนกันก็บ่อย ปั่นไปกินลมชมวิวในสวนสาธารณะกันก็มาก
อย่างไรก็ดี การใช้งานพาหนะชนิดนี้ก็ยังมีอันตรายแฝงอยู่ โดยเฉพาะส่วนของซี่ล้อจักรยานที่อาจมีเท้าเล็ก ๆ ของลูกหลงเข้าไปให้มันปั่นจนทำลูกเล็กน้ำตานองกันได้
ภัยที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นข้างต้น รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยเพื่อสร้างความปลอดภัย และป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทย์ศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี บอกว่า เป็นเรื่องที่พ่อแม่หลายคนประมาท ทั้ง ๆ ที่ทราบดีว่า เด็กกับจักรยานมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้ง่าย ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากพ่อแม่อุ้มเด็กนั่งซ้อนท้ายจักรยานของผู้ใหญ่ที่ไม่มีการป้องกัน หรือความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานดีพอ
"ผมเชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนรู้อยู่แก่ใจว่ามีความเสี่ยง แต่ก็ยังมีหลายท่านมองข้ามกันไป เห็นได้จาก เวลาอุ้มลูกขึ้นนั่งจักรยาน รู้ว่าเท้าลูกอาจเข้าไปติดในซี่ล้อได้ แต่ก็เพียงเตือนลูกแค่ว่า กางขาไว้นะลูก กางขาไว้นะ จนสุดท้าย เด็กก็คือเด็ก เท้าก็เข้าไปอยู่ซี่ล้อ เกิดการบาดเจ็บตามมา พ่อแม่ก็เป็นทุกข์ เพราะสงสารลูก" หัวหน้าศูนย์วิจัยฯ กล่าว
สำหรับการบาดเจ็บของเด็กจากจักรยานที่พบได้บ่อยนั้น หัวหน้าศูนย์วิจัยฯ ท่านนี้ เผยว่า มีอยู่ 2 อย่าง คือ การบาดที่ศีรษะ และการบาดเจ็บจากเท้าที่เข้าไปในกงซี่ล้อ โดยการบาดเจ็บที่ศีรษะนั้นเป็นสาเหตุสำคัญของการตายในเด็กบนจักรยานเลยทีเดียว
ส่วนการบาดเจ็บจากเท้าที่เข้าไปในซี่ล้อจักรยาน ทีมงานมีข้อมูลจากศูนย์วิจัยเพื่อสร้างความปลอดภัย และป้องกันการบาดเจ็บในเด็ก ระบุว่า ร้อยละ 5.7 ของการบาดเจ็บของเด็กอายุน้อยกว่า 15 ปีที่มารับการตรวจที่ห้องฉุกเฉิน ในจำนวนนี้ร้อยละ 33 หรือ 1ใน 3 เกิดจากขาเข้าในซี่ล้อรถจักรยาน ซึ่งการบาดเจ็บชนิดนี้มักเกิดขึ้นในเด็กเล็ก อายุเฉลี่ยของผู้บาดเจ็บเท่ากับ 4.7 ปี ร้อยละ 62.5 ของเด็กที่บาดเจ็บมีอายุน้อยกว่า 5 ปี ลักษณะการบาดเจ็บส่วนใหญ่จะเป็นการบาดเจ็บที่ผิวหนังโดยมีลักษณะแบบแผลถลอก แผลฉีกขาด
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น